Automotive Safety & Security Film

glass-02

ฟิล์ม ลูมาร์ อีกหนึ่งของการคิดค้นและการพัฒนาของเทคโนโลยีชั้นสูงสุด ด้วยกระบวนการเพิ่มชั้นโพลีเอสเตอร์ และปริมาณกาวชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติขิงการยึดติด อย่างเหนียวแน่นให้มีมากกว่าชั้นฟิล์มทั่วไป ซึ่งการเพิ่มชั้นโพลีเอสเตอร์และปริมาณกาวจะมีมากน้อยเท่าใด ขึ้นอยู่กับระดับความแข็งแรงทนทานที่ต้องการ ทำให้เกิดฟิล์มนิรภัยลูมาร์ ที่มีความหนาตั้งแต่ 4 มม. ถึง 100 ไมครอนขึ้นไป สามารถยึดอนุกระจก ได้เหนียวแน่มากกว่าฟลิร์มทั่วไปเป็นทวีคูณ ผ่านการทดสอบความทนทานต่อแรงกระแทกภายนอกทุกชนิดถึง 400 ฟุตปอนด์ โดยไม่หลุดจากขอบกระจก (มาตรฐาน ANSI Z97.1-1984 จากอเมริกา) และช่วยยึดกระจกที่แตกร้าวให้เกาะเป็นแผ่นเดียวกัน เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากเหตุการที่ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ  และการป้องกันอาชญากรรมได้ดีเยี่ยม ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นในอเมริกา ให้ติดตั้งในศูนย์ราชการสำคัญทั่วโลก

ประโยชน์จากการติดตั้งฟิล์มนิรภัย LLumar
1. ปลอดภัยจากการปลิวกระจายของเศษกระจกเมื่อเกิดการชน
2. ป้องกันการโจรกรรมรถโดยผ่านการทุบกระจกรถ ซึ่งคนร้ายส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ในการทุบผ่านกระจกเพื่อขโมยของ
3. แต่เมื่อติดตั้งฟิล์มนิรภัย LLumar ที่เหนียวและทนจะช่วยยึดกระจกไว้
4. และช่วยถ่วงเวลาให้คนร้ายต้องเสียเวลานานขึ้นอีกหลายเท่าตัว จึงไม่ง่ายนักเมื่อเจอรถที่ติดฟิล์มนิรภัย LLumar
5. นอกจากกรณีอุบัติเหตุ แม้กระจกหน้าต่างรถยนต์จะแตก แต่ฟิล์มนิรภัยลูม่าร์ จะยังคงยึดกระจกไว้อยู่ที่เดิม
6. ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารกระเด็นออกนอกตัวรถ อันเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต
7. ช่วยให้ถุงลมนิรภัยด้านข้างทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
8. เพราะฟิล์มนิรภัยลูม่าร์ช่วยยึดและป้องกันไม่ให้เศษกระจกไปสร้างความเสียหายให้กับถุงลมนิรภัยด้านข้าง
9. นอกจากความปลอดภัยระดับห้าดาวจากฟิล์มนิรภัย LLumar ทุกรุ่นยังสามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดและยูวีได้อย่างดีเยี่ยม คุณจึงมั่นใจได้ไม่เพียงความปลอดภัย แต่ยังเย็นสบายได้ตลอดการเดินทาง

การดูแลรักษากระจกที่ถูกต้อง หลังติดฟิล์มนิรภัยสำหรับรถยนต์
1. โดยทั่วไปวิธีการติดตั้งฟิล์มนิรภัยจะต้องใช้น้ำยา Film-on ฉีดลงบนด้านแผ่นกาวของฟิล์มและกระจกที่ติดตั้ง เพื่อช่วยขยับฟิล์มให้เข้าที่แล้ว จึงรีดน้ำออกด้วยเครื่องมือติดตั้ง ดังนั้นภายหลังการติดตั้งท่านมิต้องกังวลใจ หากพบว่ามีคราบน้ำขัง, กระจกมัวหรือเป็นฝ้า อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 30-60 วัน เมื่อฟิล์มแห้งสนิท และกาวทำงานอย่างเต็มที่ในการยึดติดกระจกช่วงระยะเวลา 14 วันแรกหลังการติดตั้ง ห้ามไขกระจกขึ้นลงเพราะฟิล์มอาจหลุดลอกได้
2. ห้ามเช็ดถูด้วยผ้าเย็น , ขนแปรง, สก๊อตไบรท์หรือวัสดุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ฟิล์มได้และห้ามเช็ดถูหรือใช้น้ำล้างกระจกภายใน ตัวรถ จนกว่าจะพ้น 21 วันนับจากวันที่ติดตั้ง
3. ควรใช้ผ้าขนหนูหรือฟองน้ำในการเช็ดล้างกระจกแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้านิ่มๆ
4. ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียโดยเด็ดขาด

ข้อยกเว้นที่ทางบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบ
1. ความเสียหายอันเนื่องมาจากการขูด ขัด ลอก โดยบุคคลที่ ไม่ใช่ช่างผู้ติดตั้ง
2. การลอกออกหรือทำลายโดยเจตนา
3. การใช้งานและการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง
4. การรับประกันมีผลใช้เฉพาะผู้มีชื่อในใบรับประกันเท่านั้น
5. กรณีกระจกแตกบริษัท ฯ ไม่สามารถรับประกันให้ท่านได้
6. กรณีความเสียหายส่วนบุคคล “ผู้ขาย” จะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ไม่ว่าจะโดย
7. ตรง โดยอ้อม หรือโดยบังเอิญที่เกิดจากการใช้หรือการไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ไม่ว่าในมูลละเมิด หรือผลของสัญญา

คุณสมบัติของฟิล์มนิรภัยรถยนต์ลูมาร์ (คุณสมบัติด้านแสง)

รุ่น SCLSRPS4

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 16 %
  • แสงส่องผ่าน : 89%
  • ลดรังสียูวี : 95%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.97
  • เงาสะท้อน : 10%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 81 %
รุ่น SCLSRPS7

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 16 %
  • แสงส่องผ่าน : 88%
  • ลดรังสียูวี : 95%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.96
  • เงาสะท้อน : 10%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 81 %
รุ่น SCLSRPS8

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 18 %
  • แสงส่องผ่าน : 88%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.94
  • เงาสะท้อน : 13%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 78 %
รุ่น N1050SRP4

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 45 %
  • แสงส่องผ่าน : 50%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.64
  • เงาสะท้อน : 15%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 44 %
รุ่น N1040SRPS4

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 53%
  • แสงส่องผ่าน : 41%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.53
  • เงาสะท้อน : 18%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 36 %
รุ่น N1020SRPS4

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 18 %
  • แสงส่องผ่าน : 88%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.94
  • เงาสะท้อน : 13%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 78 %
รุ่น N1050SRPS8

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 63 %
  • แสงส่องผ่าน : 24%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.43
  • เงาสะท้อน : 31%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 22 %
รุ่น N1040SRPS8

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 54%
  • แสงส่องผ่าน : 50%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.64
  • เงาสะท้อน : 15%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 44 %
รุ่น N1020SRPS8

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 18 %
  • แสงส่องผ่าน : 88%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.94
  • เงาสะท้อน : 13%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 78 %
รุ่น SA15CHSRPS4

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 43 %
  • แสงส่องผ่าน : 17%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.66
  • เงาสะท้อน : 7%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 44 %
รุ่น SA15CHSRPS8

 

  • การลดความร้อนจากแสงแดด : 43%
  • แสงส่องผ่าน : 17%
  • ลดรังสียูวี : 99%
  • ค่าสัมประสิทธิ์บังแดดฟิล์ม : 0.66
  • เงาสะท้อน : 5%
  • ค่าส่งผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ : 44 %